indaam-01-024

สีของประจําเดือน บอกสุขภาพคุณได้

หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่า สีของประจำเดือนสามารถบ่งบอกอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด มันสามารถบ่งบอกได้ว่าสุขภาพโดยรวมของเราเป็นอย่างไร และสามารถนำไปหาวิธีแก้ไขได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมันเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ล้วนๆ ไม่ได้นำความเชื่อใดๆมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหากคุณรู้ว่ากำลังเจอเผชิญกับปัญหาอะไร ก็จะเป็นเรื่องง่ายๆที่จัดการได้เองไม่ยากอีกต่อไป

ประจำเดือนสีแดงสด

ระยะเวลา 5 – 7 วัน ประจำเดือนมาทุก 28 – 30 วัน เป็นสีแดงปกติหมายความว่าสุขภาพของคุณดีมาก ไม่มีปัญหาใดๆที่ควรกังวล ควรกินสารอาหารที่ครบหมู่เพื่อรักษาให้เลือดหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ลดความรุนแรงของภาวะจิตใจไม่มั่นคง

ประจำเดือนสีน้ำตาล

 ระยะเวลาไม่แน่ชัด สีน้ำตาลหมายความว่าเป็นเลือดเก่าที่ถูกออกซิไดซ์ ซึ่งยังตกค้างและยังไม่ได้ถูกขับออกมาจากประจำเดือนรอบก่อน เกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่ำ หากค่าเหล่านี้ต่ำอาจเป็นต้นเหตุของอาการหงุดหงิดอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดการตกไข่เป็นประจำ

ประจำเดือนสีเข้ม ม่วงอมน้ำเงิน

ระยะเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ ประจำเดือนสีบลูเบอร์รี่ หรือสีเข้ม เป็นสัญญาณว่ามีสโตรเจน (ฮอร์โมนหญิง) มากเกินไป ถ้าเกิดว่ามีค่าสโตรเจนสูงมากๆ จะทำให้มีการแสดงอาการประจำเดือนมากกว่าปกติ และอาจนำไปสู่ ​​อาการของโรคเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometriosis), ซีสต์ (Cysts) หรือ เนื้องอก (Fibroids) ในระยะยาวฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินสามารถนำไปสู่ผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงยิ่งขึ้น

ประจำเดือนสีชมพู

ระยะเวลา 3 หรือน้อยกว่า โดยความถี่อาจแตกต่างกันออกไป ประจำเดือนสีชมพูนี้เกิดเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และมีเลือดออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อย อาจบ่งบอกถึงระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำเกินไป ร่างกายของเราผลิตฮอร์โมนจากอาหารที่คุณกิน ดังนั้นควรกินอาหารให้ครบมื้อ ไม่ควรอดอาหารมากเกินไป เช่นเดียวกับจากหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้าเป็นระยะเวลานาน

เมื่อรู้แล้วว่าแต่ละสีเกิดจากปัญหาอะไรบ้าง เราก็สามารถนำมาใช้แก้ไขได้ง่ายขึ้น เช่นการกินอาหารอย่าสม่ำเสมอ ไม่ควรอดอาหาร หรือนอนดึกจนเกินไป พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แค่นี้ก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง ช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนได้อย่างปกติ ช่วยทำให้ประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมออีกด้วย สิ่งที่ควรโฟกัสหลักๆคือระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนถ้ามีมากเกินไปก็ไม่ดี ถ้าต่ำกว่าปกติก็ไม่ดีเช่นกัน ควรรักษาระดับเอสโตรเจนอยู่ในระดับปานกลางเพื่อให้ร่างกายมีความสมดุล แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่ากำลังเผชิญกับปัญหาอะไร ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทันที เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าร่างกายอาจกำลังเจ็บป่วยมากกว่าที่คุณคิดก็เป็นได้